เมื่อการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด

เมื่อการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด

  “ตอนแรกยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เริ่มจากตาข้างซ้ายเหมือนมีแสงฟ้าผ่าเป็นแสงสีขาวๆ วาบเข้ามาที่ปลายหางตา เป็นอยู่ซักประมาณ 2-3 วัน จากนั้นก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีเม็ดจุดๆ ในลูกตาข้างซ้าย จากนั้นตาเริ่มมองเห็นเป็นฝ้า จึงรีบเดินทางมาที่คลินิกจักษุ โสต ศอ นาสิกโรงพยาบาลนนทเวช  เพื่อพบกับคุณหมอสมพร รี้พลมหา จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตา หลังจากตรวจอย่างละเอียดพบว่าจอประสาทตาซ้ายฉีกขาด  เนื้อเยื่อจอประสาทตาด้านขวามีพังผืด โดยคุณหมอได้อธิบายให้ฟังว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม  คุณหมอแนะนำว่าต้องทำการรักษาจอประสาทตาที่ฉีกขาดด้วยเลเซอร์เพื่อป้องกันเลือดออกอีกเพราะหากปล่อยให้เลือดออกมากๆ จะไม่เป็นผลดี และด้วยหน้าที่การงานที่ต้องใช้สายตาค่อนข้างมากทั้งการอ่านบทละคร พิจารณางานละครต่างๆ รวมถึงการจ้องจอคอมพิวเตอร์ผ่านแว่นสายตานานวันเข้าก็เริ่มรู้สึกว่าไม่สะดวกสบาย คุณหมอจึงแนะนำว่าปัจจุบันมีการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเพื่อการมองเห็นที่ช่วยให้เราสามารถอ่านหนังสือได้โดยที่ไม่ต้องใส่แว่น ซึ่งผมเองก็รู้สึกสนใจและตกลงที่จะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวพร้อมๆ กับการทำเลเซอร์จอประสาทตาข้างซ้าย จำได้ว่ามาพบคุณหมอวันเสาร์ รุ่งเช้าวันอาทิตย์ก็ผ่าตัดเลย

       "หากถามว่ากลัวมั้ย...คงไม่กลัว แต่ความกังวลก็มีอยู่บ้างเหมือนกันแต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะมีการฉีดยาชา เราเพียงแค่เตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมเท่านั้น ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบไปหาหมอ ทำฟัน ขูดหินปูนก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว เลยมีความรู้สึกว่าคงจะเหมือนกับการทำฟันมั้ง (หัวเราะ) และก็ค่อนข้างมหัศจรรย์หลังจากทำเลเซอร์และผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเสร็จในคืนวันอาทิตย์  พอช่วงเช้าคุณหมอมาเพื่อเปิดตาและหยอดยา และให้ผมลองมองไปรอบๆ ภาพที่เห็นก็ชัดเจน  พอช่วงสายๆ สายตาก็ใช้ได้เลย ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ  หลังจากหยอดยาเรียบร้อยแล้วคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้   พร้อมนัดติดตามผลการรักษาทุกวันเสาร์ติดต่อกัน 2 ครั้ง ซึ่งในการตรวจแต่ละครั้งคุณหมอจะมีภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาให้ดูว่ารอยฉีกขาดนั้นถูกรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยคุณหมอจะอธิบายอย่างละเอียดและให้เราดูภาพถ่ายก่อนทำเลเซอร์จะเห็นรอยฉีกขาดเป็นสีเหลืองๆ ซึ่งตอนนี้ถูกเลเซอร์ไว้หมดเรียบร้อยแล้วส่วนเลือดที่ตกค้างอยู่ในตาที่เห็นเป็นเม็ดเล็กๆ จะค่อยๆ หายไปภายใน 2 อาทิตย์  พอดวงตาข้างซ้ายแผลหายโอเคเรียบร้อย เสร็จหลังจากนั้นอีก 1 เดือนคุณหมอก็จะนัดผ่าตัดอีกครั้งที่ตาข้างขวาเพื่อเอาพังผืดออกและต้องรอให้จอประสาทตายุบกลับเข้าที่ก่อนที่จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาได้  โดยระหว่างนั้นคุณหมอจะวัดสายตาเพื่อตัดแว่นให้ใส่ระหว่างรอเลนส์ที่ส่งไปตัดต่างประเทศเนื่องจากว่าเดิมทีตาข้างขวามองไม่ชัด  หลังการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยก็สามารถกลับบ้านได้เลยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

          “หลังจากเปลี่ยนส์เลนส์ตาเรียบร้อยแล้ว  ผมก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องใส่แว่น สามารถมองระยะไกลระยะใกล้ได้ไม่มีปัญหา เนื่องจากดวงตาข้างซ้ายคุณหมอใส่เลนส์มองใกล้สามารถอ่านหนังสือใกล้ๆ ได้เลย ส่วนดวงตาด้านขวาคุณหมอใส่เลนส์มองไกล  จากเดิมที่เคยอ่านหนังสือติดต่อกัน 1-2 ชั่วโมง พอเงยหน้ามาตาจะเบลอๆ พร่าๆ จนต้องพักสายตาและหยอดน้ำตาเทียมช่วยบรรเทา  ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเพราะเพียงแค่พักสายตาเดี๋ยวเดียวก็หาย การรักษาก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย ถ้าพูดถึงเรื่องตาถ้าเป็น 5 หรือ 6 ปีที่แล้วเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้า การผ่าตัดตาไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่คิด”