คำบอกเล่าของคุณอัญชราภรณ์ เลาหรุ่งพิสิฐ

คำบอกเล่าของคุณอัญชราภรณ์ เลาหรุ่งพิสิฐ

เค้าเปรียบเสมือนเทพน้อยๆที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตและเติมเต็มครอบครัวของเราให้สมบูรณ์แบบ

     “ก่อนหน้านี้  “โอ๋”  เคยได้ยินคำว่า  “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” แต่ไม่เคยใส่ใจ เพราะคิดว่าตนเองไม่น่าจะเป็นโรคนี้ แต่เพราะด้วยสาเหตุนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นสาเหตุของปัญหาการมีบุตรยากที่ครอบครัวโอ๋ประสบ” คุณโอ๋ อัญชราภรณ์ เลาหรุ่งพิสิฐ หนึ่งในคุณแม่ที่เคยประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากมากว่า 5 ปี เล่าให้ทีมงานของเราฟังด้วยน้ำเสียงสดใสและเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ

     เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ 2545-2548  โอ๋มีปัญหาปวดท้องบริเวณมดลูก ทำการรักษาด้วยการให้ยาและพักรักษาตัว แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยเป็นๆหายๆ จนกระทั่งปี 2548 แต่งงานและก็อยากมีลูกมาก มีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดเวลา 4 ปี ก็ไม่ตั้งครรภ์ จึงได้ปรึกษาแพทย์และตรวจร่างกายเราทั้งคู่  ทำให้ได้ทราบว่าสามีเชื้อน้อยและไม่แข็งแรง แพทย์แนะนำให้คัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก หรือ Intra Uterine Insemination : IUI ตื่นเต้นมากคาดว่าต้องตั้งครรภ์แน่นอน แต่ก็เป็นได้แค่คิด เพราะผลสรุปออกมาว่า “ไม่ตั้งครรภ์” แต่เราทั้งคู่ก็ยังไม่ท้อ   

  เริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์จากทางอินเทอร์เน็ต  พบว่าเทคโนโลยี  Blastocyst Culture หรือการเลี้ยงตัวอ่อนให้เจริญเติบโตแล้วจึงใส่คืนเข้าไปในโพรงมดลูก น่าสนใจและคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เรามีลูกได้ เมื่อปรึกษากับสามีแล้ว เราจึงเลือกโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เราเชื่อมั่นในเทคโนโลยีถึงแม้ค่าใช้จ่ายจะสูงเราก็ไม่ได้กังวล เพราะโอ๋และสามีอยากรู้สาเหตุของการไม่ตั้งครรภ์มากกว่า  ครั้งนี้โอ๋ต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งทำให้เราทั้งคู่ทราบสาเหตุว่า เกิดจากตัวโอ๋เอง คือ ปีกมดลูกทั้งสองข้างตีบตัน และต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อให้มดลูกสามารถใช้งานได้ก่อน เพื่อจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการทำเทคโนโลยี  Blastocyst Culture ซึ่งมีการใช้ยากระตุ้นไข่ ฉีดยา สารพัด  จนกระทั่ง...เราดีใจที่สุดเพราะผลออกมาว่า“มีการตั้งครรภ์เพียงแค่อีกไม่กี่เดือนเราก็จะได้เป็นแม่แล้ว.... แต่กลายเป็นว่าเราต้องเสียใจที่สุดเช่นกัน เพราะเราต้องตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์เนื่องจากน้องไม่เจริญเติบโตต่อ  ทารกในครรภ์คนแรกของเรา...อยู่กับเราได้แค่ 12 สัปดาห์เท่านั้น ท้อค่ะ เพราะเรากำลังจะให้กำเนิดลูกอยู่แล้วแต่กลับผิดหวัง   คุณโอ๋กล่าว

     หลังจากนั้นตั้งใจว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อเราจะได้มีลูกได้เอง โดยการเข้าสถานบริการสุขภาพต่างๆ ทั้งฟิตเนส นวดสปา ทำใจให้สบายจะได้ไม่คิดมาก จนเจ้านายบอกว่า “ทำไมไม่รักษาที่โรงพยาบาล นนทเวช หมอประทีปอยู่ที่นั่น ท่านเคยรักษาให้ภรรยาผม” ตอนแรกคิดว่าต้องลองอีกสักครั้ง หากครั้งนี้ไม่สำเร็จเราจะไม่พยายามแล้ว วันแรกที่ไปใช้บริการรู้สึกว่าการบริการตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าตลอดจนหน้าประตูห้องน้ำ พนักงานทุกคนให้การต้อนรับดีมาก ความพยายามของครอบครัวเราในครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการที่คุณหมอขอดูประวัติทั้งหมดที่เคยรับการรักษามา ซักประวัติอย่างละเอียด เข้าใจถึงปัญหาและให้ความสำคัญกับขั้นตอนในการรักษาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งในใจอยากรู้ว่าคุณหมอจะใช้วิธีไหนในการทำให้เราตั้งครรภ์ โดยคุณหมอประทีปเลือกใช้วิธี “เด็กหลอดแก้ว”  หลังจากใส่ตัวอ่อนได้ 2 สัปดาห์ ได้มาเจาะเลือดผลว่า “ตั้งครรภ์” หลังจากนั้นได้ปฏิบัติตามคุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัดและมาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง

     จนสัปดาห์ที่ 35 เริ่มมีอาการปวดท้องหน่วงๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรมากทำตามที่คุณหมอเตือนไว้เสมอ พอเข้าสัปดาห์ที่ 36 ตอนเช้าเวลา 05.45 น.มีเลือดออก รีบโทรเข้ามือถือคุณหมอประทีป คุณหมอแจ้งว่าอย่าเพิ่งทานอาหารอะไร หากเลือดออกมาต้องผ่าตัดคลอดด่วน แล้วให้รีบมาโรงพยาบาลทันที  แล้ววันนั้นเป็นวันอาทิตย์พอดี คุณหมอต้องตื่นแต่เช้าและเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าห้องผ่าตัดด่วน “ตื่นเต้นมากค่ะ” ตอนน้องคลอดแล้ว คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าไม่ต้องตัดมดลูกสามารถเย็บห้ามเลือดได้ แต่มีพังผืดบริเวณปีกมดลูกเยอะ คุณหมอได้เลอะออก คุณหมออธิบายขั้นตอนตลอดและแจ้งว่าโอ๋เป็น “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่”

     น้องมีสุขภาพแข็งแรงดีน้ำหนัก 3,380 กรัม คุณหมอได้ไปเยี่ยมที่ห้องพักหลังออกจากห้องผ่าตัด ประทับใจมากๆกับคำว่า “ยินดีด้วยนะคุณพ่อ”  พร้อมทั้งจับมือสามีและรอยยิ้มในวันนั้น ทำให้โอ๋กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ รู้สึกได้ถึงคำว่า “จริงจัง จริงใจ” ปลาบปลื้มใจมากค่ะ

     ขอบคุณอาจารย์ประทีปที่ให้สิ่งที่มีค่ามากๆ “น้องณิชา”  เทพน้อยๆที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเรา สอนให้รู้จักคำว่า “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” ซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน สอนให้เข้าใจ และเข้าถึงประเด็นปัญหาอย่างชัดเจนที่สุด เสมือนพ่อสอนลูก ความเป็นกันเองไม่ถือตัว แม้แต่คำปรึกษาทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ อาจารย์ประทีปก็สามารถตอบคำถามได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน เมื่อไหร่ อาจารย์ประทีปก็ให้ความกระจ่างเสมอ นี่แหละคือการใส่ใจที่แท้จริง ขอบคุณมากๆค่ะ

ขอบคุณ พนักงานเปล ที่ยินดีส่งถึงที่หมายโดยปลอดภัย
ขอบคุณ พนักงานทำความสะอาดที่แม้แต่เศษกระดาษเล็กๆก็ยังเห็น
ขอบคุณ รปภ.ที่กล่าวคำว่า "ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับท่าน" ด้วยสีหน้าจริงจังและรอยยิ้ม
ขอบคุณ พนักงานต้อนรับที่ต้อนรับด้วยการยิ้มแย้มสวยตลอดพร้อมบริการอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณ พยาบาลทุกๆคน ที่ต้อนรับเป็นอย่างดีเหมือนรู้จักกันมาก่อน
ขอบคุณ โรงพยาบาลนนทเวช ที่เป็นแหล่งกำเนิด "เทพน้อยๆที่มีค่ามากมายอีกหนึ่งชีวิต"

ขอบคุณจากใจค่ะ
คุณแม่อัญชราภรณ์, คุณพ่อประภาสและน้องณิชา ดญ.ณิชาปวีณ์ ครอบครัวเลาหรุ่งพิสิฐ