 
                    ปัจจุบันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 3 ในผู้ชาย และอันดับ 5 ในผู้หญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่กว่าจะทราบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก หรือเมื่อมาพบแพทย์ก็มักพบโรคในระยะที่เป็นมากแล้ว ซึ่งทำให้มีโอกาสการเสียชีวิตสูง ด้วยปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเพิ่มมากขึ้น เช่น การรับประทานอาหาร วิถีการดำเนินชีวิต และการถ่ายถอดทางพันธุกรรมที่กำลังเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตของคนในสังคม
การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และการมาพบแพทย์ตั้งแต่มีอาการผิดปกติในระยะเริ่มแรกเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะสำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว ถ้ารู้เร็ว รักษาเร็วและถูกวิธีก็จะมีโอกาสหายมากขึ้น
|  |  | 
|  คุณหมอครับ คำถามแรกเลยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักปัจจุบันเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 3 ในผู้ชาย และอันดับ 5 ในผู้หญิง ทำไมถึงมีความน่ากลัวขนาดนี้ครับ? และมีสาเหตุเกิดจากอะไรครับ? | 
 สาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ทั้งหมด แต่สาเหตุหลักที่มีการศึกษาวิจัยพบว่าประมาณ 50-60% คือพันธุกรรม สาเหตุรองลงมา ประมาณ 30-40% คือ รูปแบบการใช้ชีวิตส ภาพแวดล้อมต่างๆ เช่นการทานอาหารที่มีกากใยน้อย การทานอาหารที่มีสัดส่วนของไขมันสูง ภาวะโรคอ้วน การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดืมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นต้น | 
|  โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในระยะเริ่มแรกจะมีอาการคล้ายคลึงกับอาการของลำไส้แปรปรวนหรือริดสีดวงทวารหนักหรือไม่? และอาการหรือสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่ควรต้องรีบมาพบคุณหมอแล้วครับ? | 
 มีทั้งอาการที่คล้ายและไม่คล้ายโรคริดสีดวง เช่นคนทั่วๆ ไปเวลาถ่ายเป็นเลือด ถ่ายยาก ถ่ายลำบาก เจ็บก้นมักจะคิดว่าเป็นริดสีดวง หรือท้องเสียบ่อยๆ ถ่ายไม่ออกก็มักจะคิดว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่เราต้องกังวลมากที่สุดคือ มีเนื้องอกหรือเนื้อร้ายซ่อนอยู่หรือไม่ ซึ่งมีวิธีสังเกตได้ง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องการขับถ่ายประมาณ 4 ข้อ ที่บ่งบอกว่าไม่ใช่ริดสีดวงธรรมดา และควรต้องมาพบแพทย์ คือ 
 | 
| 
 นอกจากอาการหรือสัญญาณเตือนข้างต้นที่คุณหมอได้กล่าวไป หากเราไม่มีอาการเตือนหรือผิดปกติใดๆ เลย แต่อยากทราบแต่เนิ่นๆ เราสามารถตรวจเพื่อคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้หรือไม่ครับ? ไม่ทราบว่ามีกี่วิธี และมีการตรวจแบบไหนบ้าง? |  ช่วงอายุที่พบบ่อยคืออายุ 50-60 ปี ยาวถึง 70 หรือกล่าวง่ายๆ คืออายุ 60 ปีขึ้นไป มีความชุกของโรคมากที่สุด แต่ในปัจจุบันพบในคนอายุน้อยลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในกลุ่มที่พบในช่วงอายุน้อยๆ เหล่านี้ก็จะพบความเสี่ยงด้านอื่นที่ชัดเจน เช่นจะพบในพ่อแม่ พี่ ป้า น้า อาที่เป็นตั้งแต่อายุน้อยกว่า 50 ปี | 
|  ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการส่องกล้องลำไส้ใหญ่และทวารหนัก อยากทราบว่ามีข้อดีอย่างไร และทุกคนควรต้องได้รับการส่องกล้องหรือไม่? | 
 ทั้งนี้การคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้มีแค่วิธีการส่องกล้องเพียงอย่างเดียว การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้เริ่มต้นด้วยการตรวจอุจจาระด้วยวิธีพิเศษต่างๆ เมื่อตรวจพบเจอความผิดปกติจะนำไปสู่การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต่อไป เมื่อส่องกล้องแล้วเจอความผิดปกติก็จะให้การรักษาและป้องกันไปตามความผิดปกติที่แพทย์ตรวจพบขณะส่องกล้อง ในปัจจุบันคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี แม้ไม่มีความเสี่ยงก็ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุกคนเพื่อเป็นการคัดกรองและป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคต | 
| 
 ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คืออะไร // ปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน // ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษา //ระยะเวลาการพักฟื้นเป็นอย่างไรครับ? | 
 ในเรื่องการรักษานั้นอย่างที่กล่าวไปตอนแรกว่ามะเร็งลำไส้เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมตั้งแต่ยังไม่ปรากฎอาการ หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในปัจจุบันจะเป็นการดูแลผู้ป่วยร่วมกันของทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น อายุรแพทย์ทางเดินอาหาร ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก แพทย์รังษีรักษา และอายุรแพทย์มะเร็งวิทยา 
 | 
| 
 
 | |












 
        
 
            





