ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ

โรงพยาบาลนนทเวช ให้บริการการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมการวินิจฉัยโรค บําบัด และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพชีวิตที่ดี และลดอัตราการเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล บุคลากร เทคโนโลยีการตรวจรักษาที่ทันสมัย ได้รับรองมาตรฐานโรงพยาบาลของสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (Hospital Accreditation: HA) และการรับรองด้านคุณภาพและบริการโดยมาตรฐานสากล (The Joint Commission International: JCI) ตลอดจนการบริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง  แม่นยำ ด้วยความมุ่งมั่น...เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน

ขอบเขตการให้บริการ และบริการเฉพาะทาง ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ

การตรวจสุขภาพประจำปี...ดีอย่างไร

   ปัจจุบันพบว่าโรคเรื้อรังหลายโรค เกิดจากพฤติกรรมการปฏิบัติตน เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน เป็นต้น โรคเหล่านี้จะไม่ปรากฎอาการให้ผู้ป่วยตกใจแล้วมาพบแพทย์ แต่จะแสดงอาการจนต้องพบแพทย์เมื่ออวัยวะภายในเสียหาย

   การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้เราตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ยะระเริ่มแรก เพื่อนำไปสู่การรักษาอวัยวะภายในที่เสียหายอย่างถูกต้องและทันถ่วงที เช่น โรคระยะแรกของเบาหวาน โรคอ้วน ฯลฯ ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานในอนาคต

การบริการ
  • 1. Check Up Program
  • โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมเสนอโปรแกรมตรวจสุขภาพที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมสำหรับทุกท่าน โดยมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและจัดสรรโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับท่าน ดังนี้
    • Be Healthy 1
    •  เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี 
    •  มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความเสี่ยงจากการเกิดโรคใดๆ ควรรับการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
    •  ต้องการตรวจคัดกรองระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) เพื่อดูความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
    • Be Heal​thy 2 
    •  เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี
    •  มีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดท้องบ่อยๆ
    •  ต้องการตรวจหัวใจในเบื้องต้น
    • Be Active สำหรับสุภาพบุรุษ 
    •  เหมาะสำหรับท่านสุภาพบุรุษอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง 
    •  มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งตับ
    •  เคยตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไขมันเกาะตับ
    •  ดื่มสุราเป็นประจำ
    • Be Active สำหรับสุภาพสตรี 
    •  เหมาะสำหรับท่านสุภาพสตรีอายุ  35  ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
    •  มีประวัติบุคคลในครอบครัว เป็นมะเร็งตับ, มะเร็งเต้านม
    •  เคยตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไขมันเกาะตับ
    •  ดื่มสุราเป็นประจำ
    • Exclusive สำหรับสุภาพบุรุษ 
    •  เหมาะสำหรับท่าสุภาพบุรุษที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และต้องการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม
    •  มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และต้องการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ B, C
    •  มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็น มะเร็งตับ
    •  เคยตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไขมันเกาะตับ
    •  ดื่มสุราเป็นประจำ
    • Exclusive สำหรับสุภาพสตรี  
    •  เหมาะสำหรับท่าสุภาพสตรีที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และต้องการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม
    •  มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และต้องการคัดกรอง ไวรัสตับอักเสบ B, C
    •  มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็น มะเร็งตับ
    • Exclusive Plus สำหรับสุภาพบุรุษ 
    •  เหมาะสำหรับท่านสุภาพบุรุษที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และต้องการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมทุกระบบของร่างกาย
    •  มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และต้องการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ A, B, C และคัดกรองโรคไทรอยด์
    •  มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็น มะเร็งตับ
    •  เคยตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไขมันเกาะตับ
    •  ดื่มสุราเป็นประจำ
    • Exclusive Plus สำหรับสุภาพสตรี 
    •  เหมาะสำหรับท่านสุภาพสตรีที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และต้องการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมทุกระบบของร่างกาย
    •  มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และต้องการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ A, B, C และคัดกรองโรคไทรอยด์
ขั้นตอนการบริการตรวจสุขภาพของทุกโปรแกรมมีดังนี้
  •  การกรอกประวัติเกี่ยวกับสุขภาพ การดำเนินชีวิตปัจจุบัน เป็นต้น
  •  พยาบาลหรือทีมงานผู้เชี่ยวชาญแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสม
  •  พยาบาลหรือทีมงานผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำในการตรวจสุขภาพแต่ละขั้นอย่างละเอียด
  •  ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจสายตาและการมองเห็น
  •  เจาะเลือดตามโปรแกรม เก็บปัสสาวะและส่งไปยังห้องปฏิบัติการ
  •  ตรวจคลื่นไฟฟ้า EKG (ถ้ามี)
  •  เอ็กซเรย์ปอดระบบดิจิตอล
  •  ระหว่างรอผลการตรวจท่านสามารถรับประทานของว่างและกาแฟ
  •  พบแพทย์เพื่อฟังผลการตรวจ ท่านสามารถปรึกษาแพทย์หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับผลการตรวจ

   นอกจากนี้ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมให้บริการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยแบบครบวงจร และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ เช่น เสียงดัง สถานที่ที่มีฝุ่นละอองมากเกินไป แสงสว่างไม่เหมาะสม รวมถึงการสัมผัสสารเคมี โดยทีมแพทย์และพยาบาลด้านอาชีวอนามัย ดังนี้

  •  การตรวจสมรรถภาพปอด
  •  การตรวจสมรรถภาพการมองเห็น
  •  ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน
  •  การตรวจระดับสารเคมีที่สัมผัส
  •  ตรวจสุขภาพร่างกายโดยแพทย์ด้านอาชีวอนามัย
  •  
  • 2. การตรวจสุขภาพสำหรับพนักงานบริษัท

   ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลนนทเวช ให้บริการตรวจสุขภาพแบบครอบคลุมแก่บริษัทชั้นนำ ในกรุงเทพและปริมณฑลมากกว่า  200 แห่ง  และใช้บริการต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี โดยการตรวจสุขภาพแบบเป็นกลุ่มนี้สามารถให้บริการได้ทั้งในและนอกสถานที่ หากท่านสนใจสอบถาม กรุณาติดต่อแผนกลูกค้าองค์กร  โทร. 0-2596-7888   2503, 2505, 2506, 2509

  • 3. ให้บริการตรวจสุขภาพทำประกันชีวิต
  • 4. ให้บริการตรวจสุขภาพใบรับรองแพทย์ เช่น เข้างานใหม่, ศึกษาต่อ, ใบขออนุญาตทำงาน เป็นต้น
  • 5. การบริการตรวจสุขภาพ
    •  การทดสอบทางห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล รวมถึงการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง
    •  การตรวจทางรังสีวิทยา
      •  แมมโมแกรม
      •  อัลตร้าซาวด์
      •  เอกซเรย์ปอด
      •  เอกซเรย์ทางเดินอาหารส่วนต้น
      •  การตรวจหามะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Thin Prep โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวช
      •  การตรวจตาโดยจักษุแพทย์
      •  การฉีดวัคซีน
ข้อควรปฏิบัติก่อนการเข้ารับการตรวจสุขภาพ
  •  งดรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ 8-12 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
  •  สตรีที่อยู่ระหว่างการเป็นประจำเดือนไม่สามารถรับการตรวจปัสสาวะได้
  •  หากท่านมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพอื่นๆ กรุณานำผลการตรวจหรือรายงานจากแพทย์มาด้วย เพื่อประกอบการวินิจฉัย
  •  หากท่านกำลังรับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต ท่านสามารถรับประทานต่อได้ตามที่แพทย์แนะนำ
  •  หากสงสัยว่าตั้งครรภ์กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบก่อนเข้ารับการตรวจ
  •  กรุณางดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
ในกรณีเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
  •  กรุณานำรองเท้ากีฬามาด้วย
  •  หากท่านจำเป็นต้องรับประทานอาหารก่อนการตรวจ ควรรับประทานอาหารว่างเบาๆ เท่านั้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน คาเฟอีน และแอลกอฮอล์
  •  หากท่านอยู่ในระหว่างรับการรักษาหรือรับประทานยารักษาโรคอยู่ กรุณาแจ้งให้พยาบาลทราบก่อนเข้ารับการตรวจ
คำแนะนำสำหรับการตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง
  •  เพื่อให้ผลการตรวจที่ชัดเจนที่สุด ควรดื่มน้ำมากๆ และกลั้นปัสสาวะนาน 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
  •  งดน้ำอาหารอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง
  •  รับประทานยาได้ตามปกติ ยกเว้น ผู้ป่วยเบาหวานให้งดยาเบาหวานในวันตรวจ
  •  เจ้าหน้าที่ทำการซักประวัติการแพ้สารทึบรังสี แพ้อาหารทะเล เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นโรคหอบหืดรุนแรง โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับไต ก่อนการตรวจ
  •  
  • 6. การให้บริการดริปวิตามิน IV Drip (Vitamin Drip)

   เป็นการให้วิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านสายน้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำ ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการรับประทาน เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรืออยากฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีพลังและสดชื่นอีกครั้ง

ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมให้บริการ วิตามินทุกสูตรผสมวิตามินโดยทีมเภสัชกร ได้แก่

Myer’s Cocktail

สูตรเพิ่มพลังงาน และความสดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก ปวดหัวจากไมเกรน นอนไม่หลับ

Aura & Shine

สูตรฟื้นฟูผิว ปรับผิวขาวกระจ่างใส มีออร่า ลดจุดด่างดำ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนป้องกันริ้วรอย

Immune Booster

เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว อ่อนเพลียเรื้อรัง เหมาะกับผู้ที่ป่วยบ่อยหรือป่วยง่ายเป็นประจำให้แข็งแรงขึ้น

ขั้นตอนการดริปวิตามิน
  •   ตรวจวัดความดันโลหิต วัดน้ำหนักและส่วนสูง พร้อมพบแพทย์เพื่อซักประวัติการเจ็บป่วย การแพ้ยา ปัญหาสุขภาพที่กังวล รวมถึงการให้ข้อมูลสุขภาพและคำแนะนำโดยแพทย์ในเลือกสูตรวิตมินที่เหมาะสมกับแต่ละคน
  •   ให้วิตามินตามสูตรที่เหมาะกับผู้เข้ารับบริการแต่ละคน โดยให้วิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆ ผ่านสายน้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง

   สามารถเติมวิตามินได้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปจะเริ่มรู้สึกสดชื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับบริการ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ควรเข้ารับการดริปวิตามินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 3 - 5 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคน และสารอนุมูลอิสระเดิมในร่างกายที่แตกต่างกัน

ข้อควรระวังการดริปวิตามิน

ผู้ที่มีโรคประจำตัว และมีข้อจำกัดบางอย่างในการรับวิตามิน ควรแจ้งให้แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยทราบและปรึกษาก่อนเข้ารับบริการ

  •   หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  •   ประวัติแพ้ยาหรือวิตามินต่างๆ และอาการแพ้
  •   โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำ
  •   ภาวะไตวายเรื้อรังหรือไตเสื่อม
  •   ผู้ป่วยโรค G6PD
  •   รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด
  •   มีไข้สูงและรู้สึกไม่สบาย
  •   มีผื่นหรือแผลบริเวณที่จะสอดเข็มเพื่อดริปวิตมิน เช่น ข้อพับแขน ข้อมือ หลังฝ่ามือ
  •   อยู่ในช่วงคุมน้ำหนัก
การดูแลตนเองหลังดริปวิตามิน
  •   หลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด รังสี UVA และ UVB รวมถึงใช้ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิว
  •   งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายวิตมินและแร่ธาตุต่างๆ ที่ได้รับจากการดริปวิตมิน ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อการฟื้นฟูผิว
  •   ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน หรือประมาณ 1-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
  •   ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
เปิดให้บริการเร็วๆนี้ ที่ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ  (Wellness Center) ชั้น 5

 


  แพคเกจและโปรแกรมตรวจ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ